พระราชบัญญัติ วิศวกร พ.ศ.2542 หมวด 6 มาตรา 45 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่า
--
เพิ่มความเข้มแข็งระบบซ่อมบำรุง ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ รายงานการตรวจ ระบบทำความเย็นทุกๆ 3 เดือน TEL : 086-967-1621
ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ชนิดและประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานก่อสร้างที่ต้องตรวจรับรองประจำปี โดยที่กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. ๒๕๕๑ กำหนดให้นายจ้างที่มีการใช้ เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในงานก่อสร้างต้องจัดให้มีการตรวจรับรองประจำปีตามชนิดและประเภท ที่อธิบดีประกาศกำหนด อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๗๓ แห่งกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและ การจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. ๒๕๕๑ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงออกประกาศไว้ ดังนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ชนิดและประเภท เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานก่อสร้างที่ต้องตรวจรับรองประจำปี" ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจรับรองประจำปีเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน ก่อสร้างให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีและปลอดภัย ตามชนิดและประเภท ดังนี้ (๑) เครื่องจักรที่ใช้งานยก งานเคลื่อนย้าย หรืองานติดตั้ง ได้แก่ รถบรรทุก ระบบสายพาน ลำเลียง รถยก (๒) เครื่องจักรที่ใช้ในงานดินหรืองานถนน ได้แก่ รถแทรกเตอร์ รถตัก เครื่องจักรสำหรับ งานขุด รถบด รถขูดอุ้มดิน (Scraper) รถเกรด (Grader) รถปูคอนกรีตแอสฟัลต์ (Asphaltic Concrete Paver) รถพ่นยาง (Bitumen Distributor, Sprayer) (๓) เครื่องจักรที่ใช้ในงานคอนกรีต ได้แก่ เครื่องผสมคอนกรีต (Concrete mixer) เครื่องสั่นคอนกรีต (Concrete Vibrator) เครื่องปั๊มคอนกรีต (Concrete Pumping Machine) เครื่องยิงคอนกรีต (Shotcrete Machine) เครื่องพ่นปูนทราย (Mortar Sprayer) รถคอนกรีตผสมเสร็จ (Transit-Mixer Truck) (๔) เครื่องจักรที่ใช้ในงานก่อสร้างฐานราก ได้แก่ เครื่องตอกเสาเข็ม เครื่องจักรที่ใช้ในการ ก่อสร้าง เสาเข็มเจาะและกำแพงพืด เครื่องอัดน้ำปูน (Cement Grouting Machine) เครื่องทำ เสาเข็มดินซีเมนต์ (Soil Cement Column Machine) (๕) เครื่องจักรที่ใช้ในงานขุด งานเจาะ หรืองานอุโมงค์ ได้แก่ เครื่องอัดลม (Air Compressor) เครื่องเจาะหิน (Drilling Rock Machine) เครื่องเจาะอุโมงค์ (Tunnel Boring Machine) เครื่องดันท่อ (Pipe Jacking Machine) แบ็กโฮ (Backhoe) แดร็กไลน์ (Dragline) รถตักหน้า-ขุดหลัง (Front-End Loader) หน้า ๑๐ เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๗๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ (๖) เครื่องจักรที่ใช้ในงานตัด งานเชื่อม หรืองานเจีย (๗) เครื่องจักรที่ใช้ในงานรื้อถอนทำลายสิ่งก่อสร้าง ได้แก่ เครื่องสกัด (Jack Hammer) คอนกรีตเบรกเกอร์ (Concrete Breaker) เครื่องตัดทำลายโครงสร้าง (Demolition Shears) ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
1. อนาคต ไม่ใช่สิ่งที่ทำนายได้ (Forecast)
ในโลกความจริงที่ผันผวนซับซ้อน Scenarios คือ เครื่องมือใหม่ (Methodology) ในการทำความเข้าใจอนาคต
Scenarios เปิดโอกาสให้ “มนุษย์” แสดงความเห็นอย่างอิสระเสรี โดยไม่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลเหมือนกับการทำนาย (Forecast) ดังนั้น ผู้คนในทุกสาขาอาชีพที่แตกต่างหลากหลาย จึงสามารถแลกเปลี่ยนสนทนากันได้ผ่าน “ภาษากลาง” นั่นคือ การเล่าเรื่อง (Story)
ประโยชน์ของ Story Telling คือ การเปิดกว้างต่อ “จินตนาการ” ทำให้ “ความหลากหลาย” ในตัวตนของแต่ละคนสามารถ “เผยแสดง (Unfold)” ออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่า “ข้อมูลสำคัญ” จะไม่ตกหล่นไป เพราะถูกตีความว่า “ไม่สำคัญ ไม่น่าสนใจ” โดยความจำกัดของอคติส่วนตัว
ในท่ามกลางการสนทนาของผู้คนที่หลากหลายทั้งในและนอกเครือข่าย (Strategic Conversation) ย่อมทำให้เกิดการสร้าง “สถานการณ์จำลอง (Scenario)” ขึ้นมามากมาย ซึ่งมีข้อดี คือ ทำให้ “ผู้คน” ได้เปิดกว้างในการมองเห็น “อนาคต” จากแง่มุมที่หลากหลาย และนำไปสู่การยอมรับ “ความจริงใหม่” ได้ง่ายขึ้น
การระบุ “ความน่าจะเป็น” ของแต่ละ Scenario เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะ Scenario ไม่ได้ต้องการทำนายอนาคต (Forecast) แต่ต้องการให้ไอเดียที่หลากหลายได้รับการนำเสนอขึ้นมาให้มากที่สุด โดยเชื่อว่า ท่ามกลางการต่อสู้ของไอเดียที่หลากหลาย จะทำให้เกิดการผุดบังเกิด (Emerge) ของไอเดียใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งนำไปสู่การคัดเลือกตามธรรมชาติ (Natural Selection) และตกผลึกออกมาเป็น Scenario ที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 1 สถานการณ์จำลอง
2. การค้นหา Original Invention
Scenarios มีความเชื่อว่า องค์กรธุรกิจหรือปัจเจกชนที่จะเติบโตและพัฒนาตัวเองได้ จะต้องมี Original Invention หรือการสร้างสรรค์เฉพาะตัวที่คนอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ ดังนั้น การเปิดกว้างผ่านข้อมูลที่หลากหลายของกระบวนการ Scenarios ย่อมทำให้องค์กรธุรกิจและปัจเจกชนสามารถค้นพบ Original Invention ของตนเองได้
“ทำในสิ่งที่รัก” คือ วลีเด็ดในโลกธุรกิจของศตวรรษที่ 21 แต่เอาเข้าจริงก็มีไม่กี่คนที่จะสามารถค้นพบจุดเด่นและความต้องการที่แท้จริงของตนเอง ดังนั้น ภาวะเปิดกว้างทางความคิดและเชื่อมร้อยข้อมูลผ่าน Scenario ที่แตกต่างหลากหลาย ย่อมเป็น “วัตถุดิบ” ที่ดีในการค้นพบ Original Invention ที่ทำให้ผลงานของบริษัทหรือปัจเจกชนนั้นมี “คุณค่า” ในสายตาของผู้บริโภค เพราะไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้
3. ปรับตัวตนขององค์กร (Oraganization Self) ให้เข้ากับระบบที่ซับซ้อน (Ecology System)
หลังจากที่ค้นพบ Idea ซึ่งโดดเด่นระดับ Original Invention บางคนในองค์กรย่อมใจร้อนและปรารถนาจะให้ไอเดียที่ค้นพบได้แปรเปลี่ยนเป็นความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากตลาดอย่างรวดเร็ว โดยบางครั้งสิ่งที่ค้นพบยังเป็นเพียงแค่ Early Warning ของสังคมเท่านั้น ยังไม่เติบโตเข้มแข็งเพียงพอที่จะเป็น New Trend ดังนั้นการที่คนส่วนใหญ่ในสังคมจะไม่เห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์นี้ ย่อมเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะการศึกษาสนใจเรื่องนี้มีต้นทุนที่สูงเกินไป ขณะที่ให้ผลตอบแทนต่ำ ต้องรอให้ผ่านไปสักระยะผู้คนจึงค่อยใส่ใจอย่างจริงจัง นี่คือ ความจริงในโลกที่เป็นระบบซับซ้อน มีความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล ความเฉื่ยอในการรับรู้ของมนุษย์ ฯลฯ จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงไม่เป็นเส้นตรง
Scenarios จึงสอนให้ “องค์กร” ที่ค้นพบ Original Invention ต้องรู้จักรอคอยอย่างอดทน และสร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวาง เพื่อเข้าถึงความจริงที่ซับซ้อน เพื่อปรับปรุง Original Invention ให้สมบูรณ์และสอดคล้องกับโลกความจริงมากขึ้น เราต้องยอมรับ “ข้อจำกัด” ของโลกความจริง แต่ซึมซับเรียนรู้ความไม่สมบูรณ์
ในท้ายที่สุด กฏแห่งวิวัฒนาการจะช่วยขจัด idea ที่เป็นไปไม่ได้ และ idea ที่ถูกต้องจะค่อยๆโผล่ขึ้นมา ดังนั้น Original Invention ที่มีคุณค่า จะต้องสามารถสื่อสารกับ “ลูกค้า” และปรับตัวให้เข้ากับความต้องการลูกค้าและบริบทสังคมไทยโดยใช้ (Strategic Conversation) ที่ชาญฉลาดและเปิดกว้างต่อความจริง
ดังนั้น ระหว่างรอคอยให้ “กฎวิวัฒนาการ” ได้คัดเลือก New Trend องค์กรที่ฉลาดจะใช้เวลานี้ในการทดสอบ Original Invention ที่ตนเองค้นพบ โดยผ่าน “เครือข่ายทางสังคม” ที่แตกต่างหลากหลาย เพื่อให้ “ผลิตภัณฑ์ใหม่” สามารถสื่อสารและพัฒนาเพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม
4. Strategy คือ องค์รวมของการปฏิบัติเพื่อค้นหาและพัฒนา Original Invention